วิวัฒนาการการเลือกใช้วัสดุทำกันสาด
‘กันสาด’ ในความหมายของการออกแบบบ้าน หมายถึงชายคาอันแรกของตัวบ้านมีไว้ป้องกันฝนและกันแดด มีลักษณะเป็นหลังคามีความลาดเอียงเฉียงๆ ยื่นออกมาจากตัวบ้าน การออกแบบกันสาดในประเทศไทย มีวิวัฒนาการให้เห็นได้ตั้งแต่เรือนไทยโบราณจนถึงบ้านสมัยใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งกันสาดเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่นิยมมากๆ ในประเทศแถบร้อนชื้นที่มีทั้งแดดและฝนตกชุก
การต่อเติมกันสาดมักจะเกิดขึ้นด้วยเหตุที่ว่าฟังก์ชั่นของพื้นที่ใช้สอยนอกตัวบ้านเดิมตรงไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริง จนเกิดฟังก์ชันความต้องการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาภายหลัง เช่น พออยู่ๆ ไปแดดส่องเข้าหน้าบ้านร้อนอยู่ไม่ได้ หรือทุกครั้งที่ฝนตกจะสาดเข้าบ้านจนเปียกชุ่ม หรือซื้อรถใหม่มาไม่มีที่ร่มสำหรับจอดรถจึงต้องต่อเติมกันสาด
วิวัฒนาการของกันสาด
จากอดีตเรือนไทยโบราณที่ใช้กระเบื้องดินเผาในการทำกันสาด >> สู่ยุคสังกระสีลอน >>ส่งต่อด้วยกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ เห็นได้ว่าการใช้วัสดุมุงกันสาดในอดีตมักใช้วัสดุที่ทำหลังคามาทำกันสาดด้วยเทคโนโลยีการผลิตและวัสดุภัณฑ์ที่มีข้อจำกัด วัสดุเหลานี้จะต้องใช้โครงสร้างที่แข็งแรง แป และจันทัน มีความถี่สูง เพื่อรับน้ำหนักของแผ่น รูปลักษณะของกันสาดจึงเป็นโครงสร้างทึบตัน
เข้าสู่ยุคของการพัฒนาที่อยู่อาศัย
ความเป็นรูปแบบเมืองมากขึ้น และเทคโนโลยีการผติตมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีวัสดุหลากหลาย น้ำหนักเบา มีขนาดแผ่นที่ใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานที่ตรงความต้องการมากขึ้น เราคุ้นเคยกันสาดผ้าใบสีฟ้าสีเขียว >> หรือกันสาดโพลีคาร์บอนเนตที่มีที่นิยมในช่วงเวลาหนึ่งแต่จากการใช้งานจริงด้วยตัววัสดุทำจากพลาสติกความคงทนจะมีขีดจำกัด อายุการใช้งานสั้น เทียบกับความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปจึงไม่ตอบโจทย์สำหรับการทำกันสาดมากนัก >> ปัจจุบันกันสาดไฟเบอร์กลาสเป็นกันสาดที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากด้วยวัสดุเรซิ่นขึ้นรูปด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาส เคลือบฟิลม์ 2 ด้าน ตามมาตรฐานสากลพื่อป้องกันความร้อนและรังสี UV ที่นิยมยุคนี้ภายใต้ชื่อกันสาดตราดีไลท์ มีน้ำหนักเบา หน้ากว้าง 1 เมตร พร้อมชุดอุปกรณ์ติดตั้ง ประหยัดเวลา และประหยัดโครงสร้างกันสาด จึงทำให้กันสาดตราดีไลท์เป็นองค์ประกอบสถาปัตยกรรมที่ได้รับความนิยมในทุกวันนี้